loading...

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

“ตี๋ใหญ่ในตำนาน”จาก”เด็กที่ถูกรังแก”สู่การเป็น”จอมโจรผู้โหดเหี้ยม”!!!!



 “ตี๋ใหญ่” มีชื่อจริงว่า กรประเสริฐ ช่างเขียน เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เกิดปี พ.ศ. 2495 ที่ดำเนินสะดวก ราชบุรี เป็นลูกชายคนโตในจำนวนลูก ๆ ทั้ง 7 คนของครอบครัว วัยเด็ก ตี๋ใหญ่เป็นคนเรียบร้อย ไม่สู้คน จึงถูกเพื่อนๆรุ่นเดียวกันเสมอ และไม่มีวี่แววว่าจะเป็นจอมโจรได้เลย เมื่อเรียนจบ ป.4 ด้วยความยากจน แม่ของตี๋ใหญ่จึงได้ส่งเข้ามาทำงานที่กรุงเทพที่ตลาดมหานาค ตี๋ใหญ่เป็นคนขอบเที่ยวผู้หญิงมากจึงได้ไปเขม่นกับนักเลงเจ้าถิ่นที่นั่น และตี๋ใหญ่ถูกนักเลงเจ้าถิ่นรังแกเป็นประจำ เมื่อโดนรังเเกบ่อยๆเข้าเลยทำให้เป็นคนสู้คนขึ้นมา จนกระทั่งก่ออาชญากรรมได้ในที่สุด เขาเริ่มคุมลูกน้องและพ้องเพื่อน ตั้งตนเป็นเป็นนักเลงใหญ่ออกไปลบรอยแค้น จากกลุ่มนักเลงเล็กๆ ของตี๋ใหญ่ เริ่มมีการขยับขยาย จากการปราบนักเลงเจ้าถิ่น เริ่มจากย่านมหานาค มาบางขุนพรหม เทเวศร์ สามเสนฯลฯ….ใครที่มีเรื่องกับเขาต้องอัดจนยอม จนชื่อของตี๋ใหญ่เริ่มเป็นที่รู้จักและเริ่มดังในย่านต่างๆ เขาเกิดไปมีเรื่องกับคู่อริชื่อ “แช่ม” อาชีพคุมรถสองแถวที่เหม็นขี้หน้าตี๋ใหญ่มานาน ถึงขั้นดวลมีดหน้าลานวัด จนเป็นเหตุทำให้คู่อริบาดเจ็บสาหัสที่ไหล่ซ้าย จนเรื่องถึงตำรวจ และนี้เป็นคดีอาญาคดีแรกของตี๋ใหญ่ที่เจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ตี๋ใหญ่เริ่มฝึกยิงไม่ว่าเป็นเป้านิ่ง หรือเป้าเคลื่อนไหว ศัตรูคู่อาฆาตของเขาเอง ในไม่ช้าเมื่อตี๋ใหญ่เริ่มเชี่ยวชาญยิงปืนถึงขั้น “แม่นราวจับวาง”


  ตี๋ใหญ่เป็ลูกศิษย์ของ”หลวงพ่อสุด”วัดกาหลง ด้วยความเป็นหนุ่มอ่อนน้อมต่อผู้อาวุโส มีความขยัน และชอบศึกษาพุทธาคม สวดมนต์เก่ง ทำให้พระอาจารย์หลวงพ่อสุดชมชอบตี๋ใหญ่มากๆ จนมอบของขลังหลายอย่าง เช่นเหรียญ “เสือหมอบ” “เสือเผ่น” “ยนต์ตระกร้อ” และ “ตะกรุดโทน” ไว้เป็นของขลังประจำกายและ2สิ่งนี้คือสิ่งที่ตี๋ใหญ่พกติดตัวตลอดเวลา
   เขาเเละพรรคพวกเริ่มปล้นครั้งแรกในชีวิต โดยเหยื่อรายแรกคือ “นายอดิศักดิ์ พิษณุวัตร” เป็นเศรษฐีย่อยๆ คนหนึ่งในอำเภอดำเนินฯ ตี๋ใหญ่กวาดเงินสด ทองรูปพรรณ และทรัพย์สินมีค่า รวมมูลค่าหลายแสนบาทอย่างง่ายดาย และเป้าหมายที่2คือร้านแอนนี่ จิวเวอรี่ ตี๋ใหญ่วางแผนอย่างดี ตี๋ใหญ่นำลูกสมุน 5 คน พร้อม “นางบุญปัน แก้วจันทร์ดี” แต่งกายภูมิฐานทำทีไปชมอัญมณีภายในร้าน พอดีโอกาสทั้ง 6 สาวหนุ่มก็ปราดเข้าใช้อาวุธกวาดเงินสดกับเครื่องประดับราคาสูงลงกระเป๋าเอกสารเท่าทีตี๋ใหญ่กำหนดไว้ให้เพียง 5 นาที เมื่อถึงเวลาตี๋ใหญ่ออกคำสั่งให้ถอย ลูกสมุนทั้งหมดรีบหนีไปยังรถเก๋งเช่าตามแผน แต่ระหว่างทางเกิดถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่มาขัดขวางทำให้เกิดการดวลปืนยิงสนั่นโรงแรม หนึ่งในกลุ่มโจรได้สาดกระสุนปืนสังหารเจ้าหน้าที่ตาย 1 นาย และสามารถหลบหนีได้ แต่เงินที่ได้จากการปล้นแต่ละครั้งตี๋ใหญ่มักใช้หมดเพียงไม่กี่วัน นอกจากการนำเงินไปช่วยเหลือครอบครัวแล้ว ตี๋ใหญ่มักใช้เงินหมดไปกับสองสิ่งคือ “ผู้หญิง” และ “การพนัน” โดยเฉพาะ ไฮโล ตี๋ใหญ่ชอบมันเป็นพิเศษ เข้าบ่อนแต่ละครั้งหมดเงินเป็นหมื่นๆ
      ตี๋ใหญ่ โด่งดังจากการเป็นโจรปล้นฆ่าชื่อเสียงโด่งดังในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2520 โดยจะปล้นฆ่าไปทั่วแถบบริเวณจังหวัดราชบุรีและหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง และบางส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานครนอกจากนี้แล้ว ตี๋ใหญ่ ยังถือเป็นโจรใจเด็ด เพราะเคยหนีตำรวจโดยกระโดดลงจากรถไฟมาแล้ว และสลัดกุญแจมือด้วยการซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานให้รถไฟทับให้ขาด ในขณะที่ถูกควบคุมตัวบนขบวนรถไฟจากกรุงเทพไปขึ้นศาลที่เชียงใหม่จากคดีปล้นร้านทองที่เขตภาษีเจริญ เมื่อปี พ.ศ. 2518 และยังเคยบุกปล้นคุกเพื่อช่วยลูกน้องที่ติดคุกอยู่อีกด้วย และเขาเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อใจใครแม้เเต่ลูกน้องตนเองจึงไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้ ทุกครั้งที่ปล้นเสร็จเขาจะเเบ่งเงินให้ลูกน้องเเละเเยกย้ายกันหลบหนีและใช้เงินที่ได้มาไปกับการพนันเเละเที่ยวผู้หญิง เมื่อใช้เงินหมดตี๋ใหญ่จะเป็นคนติดต่อไปหาลูกน้องเอง  และเทคนิคพิเศษหลบหนีตำรวจของเขาคือจะใช้วิธีดำน้ำโดยการ”ใช้ปากดูดอากาศจากก้านบัวเหมือนหลอดเพื่อให้ดำน้ำได้เป็นเวลานาน” ซึ่งตี๋ใหญ่เคยทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ๆ
     ตี๋ใหญ่มักจะอยู่ไม่เป็นที่ ต้องคอยหลบหนีตลอด โดยเวลานอนจะจุดธูปหนีบไว้ที่นิ้วเท้าเมื่อธูปหมดดอก ก็จะย้ายไปที่อื่น ตี๋ใหญ่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ แต่งกายด้วยเสื้อเชิร์ตลายสก๊อต กางเกงยีนส์สีดำ สวมแว่นตาดำ และรองเท้าผ้าใบ
      ตี๋ใหญ่ ยังเป็นโจรเจ้าชู้ และมีภรรยาหลายคน เพราะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง โดยตี๋ใหญ่โกหกชื่อตน ว่าชื่อแจ็คบ้าง ไพโรจน์บ้างโดยที่ภรรยาเหล่านี้บางคนยังไม่ทราบเสียด้วยซ้ำว่า สามีของตนนั้นเป็นโจร
   
ตี๋ใหญ่ได้เสียชีวิตในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524  ซึ่งเล่ากันว่าที่ตี๋ใหญ่ตายขณะหลบหนี ซึ่งก่อนวันตาย1วัน ตี๋ใหญ่ได้ให้ลูกน้องขับรถไปรับเพื่อไปหาหลวงพ่อสุด วัดกาหลง ที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อไปขอพระจากท่านแทนของเดิมถูกเพื่อนขโมยไปทั้งตะกรุดและพระประจำกาย แต่ก็ไม่พบหลวงพ่อ และขณะที่เดินทางกลับ ได้ถูกเพื่อนร่วมเดินทางซึ่งเป็นลูกน้องหักหลังยิงตี๋ใหญ่จนตาย แล้วรีบออกจากรถ หลังจากตำรวจมาถึงรถที่ตี๋ใหญ่ตายอยู่ในรถก่อนหน้านี้แล้ว

ที่มา  http://www.ruk-yim.com/747

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น